บทนำ
ที่มาและความสำคัญ ปัจจุบันไฟฟ้ามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ประเทศที่จะพัฒนา ได้นั้นต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามาก เพราะว่าเครื่องมือหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ต้องใช้ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าไฟฟ้าจะมีประโยชน์แต่มีโทษแก่มนุษย์เหมือนกันถ้าใช้ไฟฟ้าอย่างประมาท อีกทั้งพลังงานยังเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตอบสนองความต้องการของประชาชน ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
แต่ประเทศไทยมิได้มีแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์ภายในประเทศมากพอกับความต้องการ ทำให้ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ที่ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงมีแนวทางรณรงค์ให้ร่วมมือกันช่วยลดอัตราการเพิ่มความต้องการใช้พลังงานของประเทศ คือการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดในทุกภาคส่วน
ซึ่งจากการสำรวจและสังเกตพบว่าในบางเวลาที่เร่งรีบ ก่อนออกจากบ้านหรือสถานที่ต่างๆ มักจะมีการลืมปิดไฟ ปิดพัดลม เช่นเดียวกับในเวลาที่สามเณรเร่งรีบมาเรียนหรือ เร่งรีบไปฉันเพล มักจะลืมปิดสวิตซ์ไฟและลืมปิดสวิตซ์พัดลมที่หอพักและที่โรงเรียนเป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นเพราะความสะเพร่าของสามเณรเอง จนลืมไปว่า ตนเองได้เปิดสวิทซ์ไฟและสวิทซ์พัดลมอยู่
ทำให้วัดและโรงเรียนมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น และเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นการใช้โดยไม่ก่อประโยชน์แต่อย่างใด
จากปัญหาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทางคณะผู้จัดทำจึงได้มีการคิดค้น เพื่อหาแนวทางในการประหยัดไฟ โดยสร้างสิ่งประดิษฐ์คือ “ ผู้ช่วยอัจฉริยะ ” นี้ขึ้นมา ซึ่งจะสามารถตัดไฟหรือปิดไฟให้เราได้ในเวลาที่ไม่มีใครใช้กระแสไฟฟ้าแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดไฟฟ้า ลดค่าไฟฟ้าให้น้อยลงและเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ทางด้านเทคโนโลยีของสามเณรเพิ่มมากขึ้น
วัตถุประสงค์และเป้าหมาย ๑) เพื่อพัฒนาต้นแบบอาคารหอพักประหยัดพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ ๒) ลดค่าใช้จ่ายในวัด
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑) ยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟฟ้า ๒) บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์กับการประยุกต์ใช้งานจริง ๓) ได้ความรู้วิธีการเขียนโปรแกรมและนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ๔) ได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ๕) ทำให้เกิดความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเดินไปเปิดไฟ ปิดไฟเอง |