ต้นมะข่า ชื่อสามัญ Ma kha num
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib. T
ถิ่นกำเนิด ในประเทศเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และอินเดีย
รวมถึงประเทศไทยด้วย พบได้
มากตั้งแต่ระดับความสูง ๑๕๐-๖๕๐ เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
พบแพร่กระจายทั่วไปตามป่า
เบญจพรรณ และป่าเต็งรัง พบมากในทุกภาค ยกเว้นภาคใต้
โดยเฉพาะภาคกลาง ภาค
อีสาน และภาคเหนือ มักขึ้นตามข้างลำห้วยหรือแม่น้ำที่ชุ่ม
คุณสมบัติ/สรรพคุณ
เมล็ดแก่เมื่อนำมาเผาไฟแล้วกะเทาะเปลือกออก
เอาแต่เนื้อข้างในมารับประทาน
เป็นอาหารว่างได้ โดยเนื้อจะมีลักษณะแข็ง ๆ
คล้ายกับเมล็ดมะขามและมีรสมันฝักและ
เปลือกให้น้ำฝาดชนิด Catechol
และ Pyrogallol ใช้สำหรับฟอกหนัง ส่วนเปลือกต้นจะนิยม
นำมาใช้ย้อมสีเส้นไหม
ย้อมแห โดยจะให้สีแดงในด้านเชื้อเพลิง สามารถนำมาใช้ทำเป็น
ถ่านได้ดี
โดยจะให้ความร้อนได้สูงถึง ๗,๓๔๗ แคลอรีต่อกรัม
เนื้อไม้เป็นสีน้ำตาล่อนหรือเป็นสีน้ำตาลแก่ เมื่อทิ้งไว้นาน ๆ
จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
มีเส้นสีเข้มกว่าสลับกับเนื้อไม้ที่ค่อนข้างหยาบ
เสี้ยนสนแต่สม่ำเสมอ มีความแข็งแรง
ทนทาน ทนต่อปลวกได้ดี เลื่อย ผ่า
ไสกบตบแต่งได้ยาก สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้าง
อาคารบ้านเรือนได้ดี
แต่จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ใช้ทำเสา รอด ตง พื้น พื้นรอง เครื่อง
เรือน เครื่องบน
เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องเกวียน เครื่องไถนา หมอนรองรางรถไฟ ลูก
กลิ้งนาเกลือ
กระดูกเรือ หรือใช้ทำโครงเรือใบเดินทะเล |