เฉลยปัญหาวิชาธรรม
นักธรรมชั้นตรี
สอบในโครงการอบรม
วันอังคาร
ที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐
-------------------------
๑.บุพพการีและกตัญญูกตเวที
ได้แก่บุคคลเช่นไร ? จงยกตัวอย่างมาสัก
๒ คู่
บุพพการี
ได้แก่บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน (๒
คะแนน)
กตัญญูกตเวที ได้แก่บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน (๒ คะแนน)
(ตอบเพียง
๒ คู่) (๖ คะแนน)
คู่ที่
๑ มารดาบิดากับบุตรธิดา
คู่ที่
๒ ครูอาจารย์กับศิษย์
คู่ที่
๓ พระราชากับราษฎร
คู่ที่
๔ พระพุทธเจ้ากับพุทธบริษัท ฯ
๒. บุญกิริยาวัตถุ คืออะไร ? (๓ คะแนน) โดยย่อมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
สิ่งที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ ฯ (๓
คะแนน) มี ๓ ฯ (๑ คะแนน) คือ
๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน (ข้อละ ๒ คะแนน)
๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ฯ
๓. ภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ควรเว้นอันตราย
๔ อย่าง คืออะไรบ้าง ?
ควรเว้น อันตราย ๔ อย่าง คือ
๑. อดทนต่อคำสอนไม่ได้
คือเบื่อต่อคำสอน ขี้เกียจทำตาม (ข้อละ
๒.๕ คะแนน)
๒.
เป็นคนเห็นแก่ปากแก่ท้อง ทนต่อความอยากไม่ได้
๓.
เพลิดเพลินในกามคุณ ทะยานอยากได้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป
๔. รักผู้หญิง ฯ
๔. กรรมอันเป็นบาปหนักที่สุด ห้ามสวรรค
์ห้ามนิพพาน คือกรรมอะไร ? จงยกตัวอย่างสัก
๓ ข้อ
คือ อนันตริยกรรม ฯ (๔ คะแนน)
มี
(ตอบ ๓ ข้อ ข้อละ ๒ คะแนน)
๑. มาตุฆาต
ฆ่ามารดา
๒. ปิตุฆาต
ฆ่าบิดา
๓. อรหันตฆาต
ฆ่าพระอรหันต์
๔. โลหิตปุบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป
๕. สังฆเภท
ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน ฯ
๕. จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้
ก. พาหุสัจจะ ข. อกุลมูล ค.
อินทรียสังวร
ฆ. อนัตตตา ง. กามฉันท์ ฯ
ให้ความหมายได้ดังนี้ (ข้อละ ๒ คะแนน)
ก.
ความเป็นผู้ศึกษามาก
ข.
รากเหง้าของอกุศล
ค.
ความสำรวมอินทรีย์
ฆ. ความเป็นของไม่ใช่ตน
ง. ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจมีรูปเป็นต้น ฯ
๖. อภิณหปัจจเวกขณะ
คือข้อที่ควรพิจารณาเนือง ๆ ๕ อย่าง ทรงสอนให้ พิจารณาอะไรบ้าง ?
ทรงสอนให้พิจารณา (ข้อละ ๒ คะแนน)
๑. ความแก่ว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
๒. ความเจ็บไข้ว่าเรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
๓. ความตายว่าเรามีความตายเป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
๔. ความพลัดพรากว่าเราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
๕. กรรมว่าเรามีกรรมเป็นของตัวเราทำดีจักได้ดีทำชั่วจักได้ชั่วฯ
๗.
การสำรวมอินทรีย์ ได้แก่การกระทำอย่างไร?
เมื่อกระทำเช่นนั้นแล้วจะได้รับประโยชน์อะไร?
การสำรวมอินทรีย์
๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้ยินดี ยินร้าย เมื่อเห็นรูป ได้ยินเสียง
ดมกลิ่น ลิ้มรส กายสัมผัส รู้ธรรมารมณ์ ฯ
(๕ คะแนน)
ได้ประโยชน์
คือ ไม่เกิดความยินดี ไม่เกิดความยินร้าย ในเวลาเห็นรูป ได้ยินเสียง เป็นต้น ฯ (๕ คะแนน)
๘. อบายมุข คืออะไร? ความเป็นนักเลงสุราจัดเป็นอบายมุขเพราะเหตุไร?
คือเหตุเครื่องฉิบหาย
ฯ (๕ คะแนน)
เพราะเป็นเหตุให้เสียทรัพย์
ก่อการทะเลาะวิวาท เกิดโรค ต้องติเตียน ไม่รู้จักอาย ทอนกำลังปัญญา ฯ
(๕ คะแนน)
๙. บุตรธิดาพึงปฏิบัติต่อมารดาบิดาอย่างไร
?
พึงปฏิบัติอย่างนี้ (ข้อละ ๒ คะแนน)
๑. ท่านได้เลี้ยงมาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
๒. ทำกิจของท่าน
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน
ฯ
๑๐.
ศีลที่คฤหัสถ์ควรรักษาเป็นนิตย์ คือศีลอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?
คือ ศีล ๕
ฯ (๒.๕ คะแนน)
ได้แก่ (ข้อละ ๑.๕ คะแนน)
๑. เว้นจากทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
๒. เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
๔. เว้นจากพูดเท็จ
๕. เว้นจากดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ฯ
|