ฝ่ายนักธรรม-วินัย
ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัตินักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖
 
๑. อกรณียกิจ คือกิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
เฉลย มี ๔ อย่าง ฯ คือ
๑. เสพเมถุน ๒. ลักของเขา
๓. ฆ่าสัตว์ ๔. พูดอวดคุณพิเศษที่ไม่มีในตน ฯ
๒. อาบัติ คืออะไร ? อาการที่ภิกษุต้องอาบัติมี ๖ อย่าง จงบอกมาสัก ๓ อย่าง ฯ
เฉลย คือ โทษที่เกิดเพราะความละเมิดในข้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ฯ (เลือกตอบเพียง ๓ ข้อ)
๑. ต้องด้วยไม่ละอาย
๒. ต้องด้วยไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นอาบัติ
๓. ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำลง
๔. ต้องด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร
๕. ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร
๖. ต้องด้วยลืมสติฯ
๓. ภิกษุพยายามฆ่าตนเอง แต่ทำไม่สำเร็จ จะต้องอาบัติอะไร ?
เฉลย ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
๔. ข้อความว่า ภิกษุชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน ตามสิกขาบทที่ ๕ แห่งสังฆาทิเสสนั้น หมายถึงการทำอย่างไร ?
เฉลย หมายถึงการที่ภิกษุบอกความประสงค์ของชายแก่หญิง   หรือบอกความประสงค์ของหญิงแก่ชายในความเป็นผัวเมีย ฯ
๕. ไตรจีวร อติเรกจีวร ได้แก่จีวรเช่นไร ?
เฉลย  ไตรจีวร ได้แก่จีวร ๓ ผืน ประกอบด้วย อุตตราสงค์ (ผ้าห่ม) อันตรวาสก (ผ้านุ่ง) และสังฆาฏิ (ผ้าคลุมหรือผ้าทาบ) ฯ
        อติเรกจีวร ได้แก่ผ้ามีขนาดกว้าง ๔ นิ้วยาว ๘ นิ้ว ซึ่งอาจนำไปทำเป็นเครื่องนุ่งห่มได้ นอกจากผ้าที่อธิษฐาน ฯ
๖. ภิกษุขอจีวรต่อสามีของน้องสาวแล้วได้มา เธอจะต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?
เฉลย ถ้าสามีของน้องสาวเป็นญาติก็ดีมิใช่ญาติแต่ปวารณาก็ดี ไม่ต้องอาบัติ ถ้ามิใช่ญาติและมิได้ปวารณา เป็นเพียงน้องเขย ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่สมัย (คือในเวลาจีวรถูกขโมยหรือเสียหาย) ฯ
๗. มีผู้นำอาหารบิณฑบาตมาถวายแก่สงฆ์ ภิกษุแนะนำให้ถวายแก่ตนเองและได้มา เช่นนี้จะต้องอาบัติหรือไม่ ? ถ้าต้อง จะต้องอาบัติอะไร ?
เฉลย ต้องอาบัติ ฯ   ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ฯ
๘. เสขิยวัตร คืออะไร ? โภชนปฏิสังยุต ว่าด้วยเรื่องอะไร ?
เฉลย คือ วัตรหรือธรรมเนียมที่ภิกษุจำต้องศึกษา ฯ
ว่าด้วยเรื่องการรับและการฉันอาหาร ฯ
๙. ภิกษุไม่เอื้อเฟื้อในเสขิยวัตร ปฏิบัติผิดธรรมเนียมไป ต้องอาบัติอะไร ?
เฉลย ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
๑๐. ภิกษุเถียงกันด้วยเรื่องอะไร จึงเรียกว่า วิวาทาธิกรณ์ ?
เฉลย เถียงกันด้วยเรื่อง สิ่งนั้นเป็นธรรมเป็นวินัย สิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย ฯ