สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
ชาติภูมิ

นามเดิม ประจวบ นามสกุล เนียมหอม นามฉายา กนฺตาจาโร

เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๙

เวลา ๑๑.๔๐ น. ที่หมู่บ้านโรงจีน ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

เป็นบุตรคนที่ ๑ ของคุณพ่อคง คุณแม่ท้อน เนียมหอม

ได้เข้าเรียนระดับประถมเมื่ออายุ ๑๐ ปีที่โรงเรียนเฉลียววิทยาวัดเหนือบางแพ

ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี


บรรพชา

        เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐

ณ วัดเหนือบางแพ ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี  โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรม

เสนานี (เงิน)วัดสัตตนารถปริวัตร อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี  เป็นพระอุปัชฌายะ พระครู

นาถ สุมโน เจ้าอาวาสวัดเหนือบางแพ ตำบลบางแพ  อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เป็นพระ

ศีลาจารย์


        เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี พ.ท.วิบูล สิริสุภาส ซึ่งขณะนั้นยังดำรงอยู่ในสมณเพศและดำรง

สมณศักดิ์ที่พระครูวิบูลธรรมคุต วัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร ได้นำเข้ามาฝากตัวให้อยู่กับ

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) ครั้งยังทรงดำรง

สมณศักดิ์ที่พระเทพเวที วัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓



อุปสมบท


      เมื่ออายุย่างเข้า ๒๑ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม

เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ เวลา ๑๔.๑๖ น. โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) ขณะทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์

เป็นพระอุปัชฌายะ

พระธรรมกิจจานุการี (ผัน กิจฺจการี) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระเทพกิตติเมธี (หิ้น คนฺธาโร) วัดมกุฏกษัตริยาราม ครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระปริยัติเมธี

เป็นพระอนุสาวนาจารย์



วิทยฐานะ

ปริยัติศึกษา - แผนกธรรม น.ธ.เอก

แผนกบาลี   - ป.ธ.๕

สามัญศึกษา

ประโยคเตรียมอุดมศึกษา (ม.๘)

ประโยคครู พ.

ประโยคครู พ.ป.

อุดมศึกษา

ปริญญาตรี ศาสนศาสตร์บัณฑิต (ศน.บ.) จากสภา-การศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย

พ.ศ. ๒๕๐๙ ปริญญาโท (M.A.) ทางปรัชญา จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย

พ.ศ. ๒๕๓๐ ปริญญาเอก (Ph.D.) ทางปรัชญา จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย

สมณศักดิ์

พ.ศ. ๒๕๐๕ รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติสารมุนี

พ.ศ. ๒๕๑๕ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราชที่ พระราชกวี

พ.ศ. ๒๕๑๗ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่ พระเทพโมลี

พ.ศ. ๒๕๒๘ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรมที่ พระธรรมธัชมุนี

พ.ศ. ๒๕๓๖ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏ

ที่ พระธรรมปัญญาจารย์



หน้าที่การงาน การปกครอง

พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม

พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นพระอุปัชฌายะ

พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม

การศึกษา

- เป็นครูสอนประปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม

- เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง

- เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม

- เป็นประธานเปิดสอบบาลีสนามหลวง ณ สนามสอบวัดชูจิตธรรมารามในมหาวชิราลงกรณ

ราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สำนักเรียนวัดมกุฏ-กษัตริยาราม)

- เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม สังกัดกรุงเทพมหานคร

- เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริยาราม สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวง

ศึกษาธิการ


- เป็นผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา วชิรมกุฏ วัดมกุฏกษัตริยาราม

สนองพระนโยบายสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถระ)


- เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมบาลี และแผนกสามัญศึกษา มหาวชิราลง

กรณราชวิทยาลัย (พ.ศ.๒๕๑๖) ที่ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรี-อยุธยา

ตามพระดำริของ
สมเด็จ พระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร)ได้ขยายการศึกษาพระปริยัติ

ธรรมแผนกสามัญอยู่ที่วัดไผ่ดำ และ

- เป็นผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาวัดไผ่ดำ ตำบลทองเอน อำเภอ

อินทร์บุรี 
จังหวัดสิงห์บุรี

การเผยแผ่

 แสดงธรรมในวันธรรมสวนะ แสดงธรรมอบรมประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน

นักศึกษา
แสดงธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ และ

ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว



การสาธารณูปการ

ได้บูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างอาคารถาวรวัตถุภายในวัดมกุฏกษัตริยารามก่อสร้างอาคาร

เรียน อาคารที่พักอาศัย อุโบสถ หอประชุม ที่มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (วัดชูจิตธรรมา

ราม) ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๑๐๐ หลัง
ก่อสร้าง

ศาลาการเปรียญและกุฏิที่พักอาศัยที่สำนักปฏิบัติธรรม มกุฏคิรีวัน ตำบลโป่งตาลอง อำเภอ

ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๒๘ หลังให้ความอนุเคราะห์ในการก่อสร้างโรง

พยาบาลบางแพ
จังหวัดราชบุรี


ตำแหน่งหน้าที่ในอดีตและปัจจุบัน

พ.ศ. ๒๔๙๑  ๒๕๐๒ เป็นเลขานุการสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่และสั่งการแทน

สังฆนายก

พ.ศ. ๒๕๐๒ ๒๕๐๕ เป็นเลขานุการสังฆนายก

พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒๕๑๕

- เป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

- เป็นเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย (ก.ส.ม.)

- เป็นกรรมการและเลขานุการมูลนิธิส่งเสริมกิจการศาสนาและมนุษยธรรม (ก.ศ.ม.)

- เป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิ ก.ศ.ม.

พ.ศ. ๒๕๐๕  ๒๕๒๖ 

- เป็นรองเลขาธิการและเลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

พระพุทธศาสนา แห่งประเทศไทย

พ.ศ. ๒๕๒๖ - ๒๕๓๗ 

- เป็นอธิการบดีสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย

- เป็นกรรมการอบรมพระธรรมทูตต่างประเทศ (ธรรมยุต)

- เป็นอนุกรรมการศูนย์ควบคุมการไปต่างประเทศ สำหรับพระภิกษุสามเณร (ศ.ต.ภ.)

- เป็นกรรมการคณะธรรมยุต

- เป็นกรรมการเถรสมาคมคณะธรรมยุต

- เป็นผู้อำนวยการมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย

- เป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน

- เป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิธัมสิริ

- เป็นกรรมการมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (ม.ว.ก.)

- เป็นกรรมการมูลนิธิสิรินธร (ส.ธ.)

- เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย

- เป็นกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช อุฏฐายีมหาเถระ

- เป็นเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม

- เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลันมหามกุฏราชวิทยาลัย

- เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม

- เป็นประธานกรรมการบริหารสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต)

- เป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

- เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะใหญ่ (ธรรมยุต)

การปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศ

- เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนา ณ ประเทศอินเดีย (ก่อนและหลังการเดินทางไปศึกษา)

- เดินทางไปร่วมฉลองพุทธชยันติ ณ ประเทศญี่ปุ่น และไปเยี่ยมทหารไทยที่ประเทศเกาหลี

   กลับมาแวะดูการพระศาสนาที่ฮ่องกงและประเทศเวียดนาม

- เดินทางไปร่วมประชุมสงฆ์คณะธรรมยุต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประจำปี

- เป็นผู้เริ่มก่อตั้งวัดญาณรังษี ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

- เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนา ที่ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเดนมาร์กและประเทศนอร์เวย์

- เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย

- เดินทางไปดูการพระศาสนาที่ประเทศไต้หวัน


เกียรติคุณพิเศษ

ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช

กุมารี ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี ๒๕๒๖


*แหล่งข้อมูล : ประวัติมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๐ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มมร จัดทำน้อมถวายเนื่องในวโรกาศวันอายุวัฒนมงคล