ฝ่ายนักธรรม-ธรรมะ

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

 

๑.พระพุทธเจ้าทรงสอนธรรมอะไรไว้สำหรับคุ้มครองโลก?

ตอบ ทรงสอนไว้ ๒ คือ    ๑. หิริ ความละอายต่อบาป

๒. โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อผลบาป ฯ

๒.คำต่อไปนี้มีความหมายว่าอย่างไร?

๑.สัมปชัญญะ              ๒.กตัญญูกตเวที            ๓.กายทุจริต

๔.มาตาปิตุอุปัฏฐาน       ๕.ปุพเพกตปุญญตา

ตอบ     ๑.สัมปชัญญะ หมายถึง ความรู้ตัว

๒.กตัญกตเวที              หมายถึง บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน

,กายทุจริต               หมายถึง ความประพฤติชั่วทางกาย

๔.มาตาปิตุอุปัฏฐาน       หมายถึง การบำรุงมารดาบิดาของตนให้เป็นสุข

๕.ปุพเพกตปุญญตา        หมายถึง ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในในปางก่อน ฯ

๓.การสำรวมอินทรีย์ ได้แก่การกระทำอย่างไร? เมื่อกระทำเช่นนั้นแล้วจะได้รับประโยชน์อะไร?

ตอบ การสำรวมอินทรีย์ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้ยินดี ยินร้าย เมื่อเห็นรูป ได้ยินเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส กายสัมผัส รู้ธรรมารมณ์ ฯ

ได้ประโยชน์ คือ ไม่เกิดความยินดี ไม่เกิดความยินร้าย ในเวลาเห็นรูป ได้ยินเสียง เป็นต้น ฯ

๔.ผู้จะดำรงความยุติธรรมไว้ได้ ต้องประพฤติอย่างไรบ้าง?

ตอบ ต้องประพฤติดังนี้

๑. ไม่ลำเอียงเพราะรักใคร่กัน อันเรียกว่า ฉันทาคติ

๒. ไม่ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน อันเรียกว่า โทสาคติ  

๓.ไม่ลำเอียงเพราะเขลา อันเรียกว่า โมหาคติ

๔.ไม่ลำเอียงเพราะกลัว อันเรียกว่า ภยาคติ ฯ

๕.คิดอย่างไรเรียกว่าพยาบาท? คิดอย่างนั้นเกิดโทษอะไร?

ตอบ คิดปองร้ายผู้อื่น ฯ เกิดโทษคือปิดกั้นจิตใจไม่ให้บรรลุความดี ฯ

๖.สัมมาวายามะ เพียรชอบ คือเพียรอย่างไร?

ตอบ เพียรในที่ ๔ สถาน (สัมมัปปธาน ๔) คือ

๑.เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้น

๒.เพียรละบาปทีเกิดขึ้นแล้ว

๓.เพียรให้กุศลเกิดขึ้น

๔.เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ฯ

๗.โลกธรรม ๘ มีอะไรบ้าง?

ตอบ คือ ๑.มีลาภ  ๒.ไม่มีลาภ  ๓.มียศ  ๔.ไม่มียศ  ๕.นินทา   ๖.สรรเสริญ   ๗.สุข  ๘.ทุกข์ ฯ

 

คิหิปฏิบัติ

๘.ตระกูลอันมั่งคั่งจะตั้งนานไม่ได้ เพราะเหตุอะไร?

ตอบ เพราะเหตุ ๔ อย่าง คือ

๑.ไม่แสวงหาพัสดุที่หายแล้ว

๒.ไม่บูรณะพัสดุที่คร่ำคร่า

๓.ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคสมบัติ

๔.ตั้งสตรีหรือบุรุษทุศีลให้เป็นแม่เรือนพ่อเรือน ฯ

๙.การอยู่ครองเรือนนั้น ควรมีธรรมอะไร? อะไรบ้าง?

ตอบ ควรมีฆราวาสธรรม ๔ ฯ คือ

๑.สัจจะ ความสัตย์ซื่อต่อกัน

๒.ทมะ การรู้จักข่มจิตของตน

๓.ขันติ ความอดทน

๔.จาคะ การสละให้ปันสิ่งของของตนแก่คนที่ควรให้ปัน ฯ

๑๐.มารดาบิดาได้เลี้ยงดูบุตรธิดาแล้ว บุตรธิดาพึงปฏิบัติต่อท่านอย่างไร?

ตอบ     ๑.ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ        

๒.ช่วยทำกิจของท่าน                        

๓.ดำรงวงศ์สกุล 

๔.ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก

๕.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ฯ