ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม
นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๑๔ ตุลำคม พ.ศ.๒๕๕๖
๑. หิริ
และ โอตตัปปะ ได้ชื่อว่า ธรรมเป็นโลกบาล เพราะเหตุไร ?
เฉลย เพราะเป็นคุณธรรมบคุคลให้รังเกียจและเกรงกลัวต่อบาปทุจรติไม่กล้าทำความชั่วทั้งในที่ลับ และที่แจ้ง ฯ
๒. การทำบุญโดยย่อมีกี่อย่าง
? อะไรบ้าง ?
เฉลย มี ๓ อย่าง ฯ คือ ทาน ศีล ภาวนา ฯ
๓.
เหตุให้เกิดทุกข์ในอริยสัจ คืออะไร ?
เฉลย คือตัณหา
ความทะยานอยาก ฯ
๔. อภิณหปัจจเวกขณะ
คือข้อที่ควรพิจารณาเนือง ๆ ๕ อย่าง ทรงสอนให้ พิจารณาอะไรบ้าง ?
เฉลย ทรงสอนให้พิจารณา ๑.ความแก่ว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
๒.ความเจ็บไข้ว่าเรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
๓.ความตายว่าเรามีความตายเป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
๔.ความพลัดพรากว่าเราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
๕.กรรมว่าเรามีกรรมเป็นของตัวเราทำดีจักได้ดีทำชั่วจักได้ชั่วฯ
๕. ขันธ์ ๕
ได้แก่อะไรบ้าง ? ย่อเป็น ๒ อย่างไร ?
เฉลย ได้แก่ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์
สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ฯ
อย่างนี้คือรูปขันธ์ คงเป็นรูป
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ๔ ขันธ์นี้เป็นนาม ฯ
๖.
บรรพชิตผู้พิจารณาเนือง ๆ ว่า วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่ จะได้
รับประโยชน์อะไร ?
เฉลย จะได้รับประโยชน์คือเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร งดเว้นสิ่งที่เป็นโทษ ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ฯ
๗. จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้ ก. พาหุสัจจะ ข. อกุลมูล ค. อินทรียสังวร ฆ. อนัตตตา ง. กามฉันท์ ฯ
เฉลย ก.ความเป็นผู้ศึกษามาก ข.รากเหง้าของอกุศล ค.ความสำรวมอินทรีย์
ฆ.ความเป็นของไม่ใช่ตน ง.ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจมีรูปเป็นต้น ฯ
คิหิปฏิบัติ
๘. มิตรแท้
มีกี่จำพวก ? อะไรบ้าง ?
เฉลย มี ๔ จำพวก ฯ คือ ๑.มิตรมีอุปการะ ๒.มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
๓.มิตรแนะประโยชน์ ๔.มิตรมีความรักใคร่ ฯ
๙. คุณธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจของผู้อื่นไว้ได้
มีอะไรบ้าง ?
เฉลย มี ๑.ทาน ให้ปันสิ่งของของตนแก่ผู้อื่นที่ควรให้ปัน ๒.ปิยวาจา เจรจาวาจาที่อ่อนหวาน
๓.อัตถจริยา ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ๔.สมานัตตตา
ความเป็นคนมีตนเสมอไม่ถือตัวฯ
๑๐.
ศีลที่คฤหัสถ์ควรรักษาเป็นนิตย์ คือศีลอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?
เฉลย คือ ศีล ๕ ฯ
ได้แก่
๑.เว้นจากทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป ๒.เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
๓.เว้นจากประพฤติผิดในกาม ๔.เว้นจากพูดเท็จ
๕.เว้นจากดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ฯ
|