ฝ่ายนักธรรม-ธรรมะ

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่  ๑๙  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

 

๑.ธรรมมีอุปการะมาก ได้แก่อะไรบ้าง ?  บุคคลผู้ขาดธรรมนี้จะเป็นเช่นไร ?

๑.ได้แก่ สติ ความระลึกได้ และ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว ฯ  จะเป็นคนหลงลืม จะทำจะพูดหรือจะคิดอะไรมักผิดพลาด ฯ

๒.บุพพการีและกตัญญูกตเวที คือบุคคลเช่นไร ?  จัดเป็นคู่ไว้อย่างไรบ้าง ?

๒.       บุพพการี คือ   บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน 

กตัญญูกตเวที คือ  บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน ฯ 

จัดเป็นคู่ไว้ดังนี้  บิดามารดา กับ บุตรธิดา,  ครูอาจารย์ กับ ศิษย์,  พระมหากษัตริย์ กับ ประชาราษฎร์,  พระพุทธเจ้า กับ พุทธบริษัท,  เป็นต้น ฯ

๓.พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ชื่อว่ารัตนะ เพราะเหตุไร ?

๓.เพราะเป็นของมีคุณค่าและหาได้ยาก เหมือนเพชรนิลจินดามีค่ามาก นำประโยชน์และความสุขมาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ฯ

๔.ธรรม ๔ อย่าง ดุจล้อรถนำไปสู่ความเจริญ ข้อว่า  “คบสัตบุรุษ คือคนดี”  นั้น จะนำไปสู่ความเจริญได้อย่างไร ?

๔.เมื่อคบสัตบุรุษแล้วย่อมเป็นเหตุให้คิดดีพูดดีทำดี อันก่อให้เกิดความสุขความเจริญทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ทั้งยังให้ถึงความเจริญอย่างที่สุดคือพระนิพพานได้ ฯ

๕.ปัจจยปัจจเวกขณะ หมายความว่าอย่างไร ?

๕.หมายความว่า พิจารณา (ถึงคุณและโทษของปัจจัย ๔) ก่อน จึงบริโภคปัจจัย ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช ไม่บริโภคด้วยตัณหา ฯ

๖.ขันธ์ ๕ ได้แก่อะไรบ้าง ?  ย่อเป็น ๒ ได้อย่างไร ?

๖.ได้แก่ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ฯ  รูปขันธ์จัดเป็นรูป   ที่เหลือจัดเป็นนาม ฯ

๗.อปริหานิยธรรม คืออะไร ?  ข้อที่ ๔ ความว่าอย่างไร ?

๗.คือ ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียว ฯ

ข้อที่ ๔ ความว่า ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่เป็นประธานในสงฆ์ เคารพนับถือภิกษุเหล่านั้น เชื่อฟังถ้อยคำของท่าน ฯ

๘.ในมรรคมีองค์ ๘  คำว่า  “เพียรชอบ”  คือเพียรอย่างไร ?

๘.คือ   เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน

          เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว

          เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน

          เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ฯ

๙.บุคคลจะได้รับประโยชน์ปัจจุบัน จะต้องปฏิบัติตามหลักธรรมอะไร ?

๙.ต้องปฏิบัติตามหลักทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ๔ ประการ คือ

          ๑.อุฏฐานสัมปทา       ถึงพร้อมด้วยความหมั่น ในการประกอบกิจการงาน ในการศึกษาเล่าเรียน  ในการทำธุระหน้าที่ของตน

๒.อารักขสัมปทา        ถึงพร้อมด้วยการรักษา ทั้งทรัพย์และการงาน ไม่ให้เสื่อมไป

          ๓. กัลยาณมิตตตา      ความมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว

          ๔. สมชีวิตา              ความเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หาได้ ฯ

๑๐.มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาความสุข พระพุทธศาสนาแสดงความสุขของผู้ครองเรือนไว้อย่างไร ?

๑๐.แสดงไว้ ๔ อย่าง คือ

          ๑.สุขเกิดแต่ความมีทรัพย์

          ๒.สุขเกิดแต่การจ่ายทรัพย์บริโภค

          ๓.สุขเกิดแต่ความไม่ต้องเป็นหนี้

          ๔.สุขเกิดแต่ประกอบการงานที่ปราศจากโทษ ฯ