ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม
นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
สอบวันศุกร์ ที่ ๒๘ พฤศจิกายน
๒๕๔๖
๑. ๑.๑โลกเดือดร้อนวุ่นวาย
เพราะขาดธรรมอะไร ?
๑.๒บุคคลมีกาย
วาจา ใจ งดงาม เพราะปฏิบัติธรรมอะไร ?
๑. ๑.๑เพราะขาดธรรมคุ้มครองโลก
๒ อย่าง คือ
๑) หิริ ความละอายแก่ใจ
๒)
โอตตัปปะ ความเกรงกลัว ฯ
๑.๒เพราะปฏิบัติธรรมอันทำให้งาม
๒ อย่าง คือ
๑) ขันติ ความอดทน
๒)
โสรัจจะ ความเสงี่ยม ฯ
๒. ๒.๑รัตนะ ๓
มีอะไรบ้าง ?
๒.๒รัตนะ ๓
นั้น มีคุณอย่างไร ?
๒. ๒.๑มี
พระพุทธ ๑ พระธรรม ๑ พระสงฆ์ ๑ ฯ
๒.๒ มีคุณอย่างนี้ คือ
๑) พระพุทธเจ้ารู้ดีรู้ชอบด้วยพระองค์เองก่อนแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้ตาม
๒) พระธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว
๓) พระสงฆ์ปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วสอนผู้อื่นให้กระทำตาม ฯ
๓. ๓.๑ธรรมเป็นดุจล้อรถนำไปสู่ความเจริญ
เรียกว่าอะไร ?
๓.๒ปุพฺเพกตปุญฺญตา
หมายความว่าอย่างไร ?
๓. ๓.๑เรียกว่า
จักรธรรม ฯ
๓.๒หมายความว่า
ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในปางก่อน ฯ
๔. ๔.๑ปธาน ๔
มีอะไรบ้าง ?
๔.๒เพียรระวังตนให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติด
จัดเข้าในปธานข้อไหน ?
๔. ๔.๑ มี ๑) สังวรปธาน
เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
๒) ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
๓) ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน
๔) อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม
ฯ
๔.๒ จัดเข้าในสังวรปธาน
ฯ
๕. จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้
?
๕.๑ปัจจยปัจจเวกขณะ
๕.๒อภิณหปัจจเวกขณะ
๕. ๕.๑ปัจจยปัจจเวกขณะ
คือ พิจารณาเสียก่อนจึงบริโภคปัจจัย ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช
ไม่บริโภคด้วยตัณหา ฯ
๕.๒อภิณหปัจจเวกขณะ
คือ พิจารณาทุก ๆ วันว่า
เรามีความแก่
มีความเจ็บมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ เจ็บ ตายไปได้ เราต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน เราทำดี จักได้ดี ทำชั่ว จักได้ชั่ว ฯ
๖. ๖.๑ธาตุกัมมัฏฐาน
มีอะไรบ้าง ?
๖.๒กำหนดพิจารณาอย่างไร
เรียกว่า ธาตุกัมมัฏฐาน ?
๖. ๖.๑มี ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ฯ
๖.๒กำหนดพิจารณากายนี้
ให้เห็นว่าเป็นแต่เพียงธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประชุมกันอยู่ ไม่ใช่เรา
ไม่ใช่ของเรา เรียกว่า ธาตุกัมมัฏฐาน ฯ
๗. ๗.๑พาหุสัจจะ
หมายความว่าอย่างไร ?
๗.๒พาหุสัจจะ
เป็นอริยทรัพย์อย่างหนึ่งนั้น อธิบายอย่างไร ?
๗. ๗.๑หมายความว่า
ความเป็นผู้เคยได้ยินได้ฟังมามาก ฯ
๗.๒อธิบายว่า
พาหุสัจจะ
คือความเป็นผู้เคยได้ยินได้ฟังมามากนั้น
ได้ชื่อว่าอริยทรัพย์ เพราะเป็นเหตุให้ได้อิฏฐผล มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
และไมตรี เป็นต้น ทั้งไม่เป็นภาระแก่เจ้าของ และที่ดีพิเศษกว่าทรัพย์สิน เงินทองทั่วไป คือ
ยิ่งใช้ยิ่งมี ฯ
๘. ๘.๑สัมมาสังกัปปะ
ดำริชอบ คือ ดำริอย่างไร ?
๘.๒มรรคมีองค์
๘ ข้อใดบ้างสงเคราะห์เข้าในสีลสิกขา ?
๘. ๘.๑ คือ ดำริจะออกจากกาม
๑ ดำริในอันไม่พยาบาท ๑ ดำริในอันไม่เบียดเบียน
๑ ฯ
๘.๒วาจาชอบ
การงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ สงเคราะห์เข้าในสีลสิกขา ฯ
๙. ๙.๑บุคคลผู้สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจคนอื่นไว้ได้
เพราะตั้งอยู่ในธรรมอะไร ?
๙.๒ธรรมในข้อ
๙.๑ นั้น มีอะไรบ้าง ?
๙. ๙.๑ในสังคหวัตถุ
๔ ฯ
๙.๒มี ๑)
ทาน ให้ปันสิ่งของของตนแก่ผู้อื่นที่ควรให้ปัน
๒) ปิยวาจา เจรจาวาจาที่อ่อนหวาน
๓) อัตถจริยา ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
๔)
สมานัตตตา ความเป็นคนมีตนเสมอไม่ถือตัว ฯ
๑๐. ๑๐.๑อบายมุข
คืออะไร ?
๑๐.๒ดื่มน้ำเมามีโทษอย่างไรบ้าง
?
๑๐. ๑๐.๑ คือ
เหตุเครื่องฉิบหาย ฯ
๑๐.๒ มีโทษ
๖ อย่าง คือ
๑) เสียทรัพย์ ๒)
ก่อการทะเลาะวิวาท
๓) เกิดโรค ๔)
ถูกติเตียน
๕) ไม่รู้จักอาย ๖)
ทอนกำลังปัญญา ฯ
|