กัณฑ์ที่ ๘ ปาฏิเทสนียะ และเสขิยวัตร
๑. เสขิยวัตร มีความหมายว่าอย่าไร จงอธิบายพอได้ความ ? เสขิยวัตร ได้แก่ธรรมเนียมที่ภิกษุพึงศึกษา พึงปฏิบัติเพื่อให้มีกิริยามารยาทอันดีงาม ฯ ๒. เสขิยวัตรสำคัญอย่างไร ถ้าไม่ปฏิบัติจะต้องอาบัติอะไร เพราะเหตุไร จึงตอบอย่างนั้น ? เสขิยวัตรสำคัญอย่างนี้ คือ เป็นวัตรที่ภิกษุสามเณรต้องศึกษาให้รู้ธรรมเนียมกิริยามารยาท ในเวลาเข้าบ้าน รับบิณฑบาต และฉันอาหาร เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้โลกติเตียน และเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสศรัทธา ถ้าไม่ปฏิบัติตาม ต้องอาบัติทุกกฏ เหตุที่ตอบอย่างนี้ เพราะข้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามก็ดี ทรงอนุญาตก็ดี เมื่อไม่ปฏิบัติตามย่อมมีความผิดฐานไม่เอื้อเฟื้อ ฯ ๓. เสขิยวัตร สำคัญอย่างไร ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะต้องอาบัติอะไร เพราะเหตุไรจงต้องอาบัติเช่นนั้น? (๙ / ๔๑) ต้องอาบัติทุกกฎ เพราะข้อที่ทรงห้ามก็ดี ข้อที่ทรงอนุญาตก็ดีเมื่อไม่ปฏิบัติตาม ย่อมมีความผิดฐานไม่เอื้อเฟื้อต่อพระวินัย ๔. เสขิยวัตร จัดเข้าในวินัยประเภทไหน ? จัดเข้าในอภิสมาจาร ฯ ๕. เสขิยวัตรแต่ละหมวดว่าด้วยเรื่องอะไร? หมวดที่ ๑ เรียกว่า สารรูป ว่าด้วยธรรมเนียม ควรประพฤติในเวลาเข้าบ้าน หมวดที่ ๒ โกชนปฏิสังยุต ว่าด้วยธรรมเนียมรับบิณฑบาตและฉันอาหาร หมวดที่ ๓ เทสนาปฏิสังยุต ว่าด้วยธรรมเนียมไม่ให้แสดงธรรมแก่บุคคลที่แสดงอาการไม่เคารพ หมวดที่ ๔ เรียกว่า ปกิณณกะ ว่าด้วยธรรมเนียมถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
๖. ทรงสอนให้ภิกษุสำรวมตาอย่างไร ? เราจักมีตาทอดลงไป-นั่งในบ้าน ๗. ทรงสอนการรับบิณฑบาตที่น่าเลื่อมใสไว้อย่างไรบ้าง ? บิณฑบาตโดยเอื้อเฟื้อ,จักมองดูแต่ในบาตร,รับเสมอขอบบาตร ๘. ทางสอนให้ช่วยกันรักษาสิงแวดล้อมไว้อย่างไร ? ไม่เอาน้ำบาตรที่มีเม็ดข้าวเทในละแวกบ้าน,จักไม่ถ่ายอุจารุ ปัสสาวะ ม้วนเขฬะลงในของเขียว ๙. ภิกษุละเมิดเสขิยวัตร ต้องอาบัติอะไร ? ต้องอาบัติทุกกฎ ๑๐. ภิกษุยืนถ่ายปัสสาวะ ต้องอาบัติอะไรหรือไม่ จงชี้แจง ? ถ้าเธอเป็นไข้ ไม่ต้องอาบัติ แต่ถ้าไม่เป็นไข้ ต้องทุกกฏ ตามสิกขาบทที่ ๑ แห่งหมวดปกิณณกะ แห่งเสขิยวัตร ฯ ๑๑. ธรรมเนียมของภิกษุ ถืออิริยาบถยืนเป็นการเคารพ หากว่าภิกษุผู้หวังความเคารพในพระธรรมวินัยตามธรรมเนียมนี้ จึงยืนทำกิจต่างๆ จะมีทางผิดธรรมเนียมข้อไหนบ้างหรือไม่ ? มี ผิดธรรมเนียมข้อ ๑๔ แห่งธรรมเทสนาปฏิสังยุตว่า เรายืนอยู่จักไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ และข้อที่ ๑ แห่งปกิณณกะว่า เราไม่เป็นไข้จักไม่ยืนถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ฯ ๑๒. ภิกษุบ้วนเขฬะลงในสนามหญ้า ต้องอาบัติอะไร ? ต้องอาบัติทุกกฏ ตามสิกขาบทที่ ๒ แห่งเสขิยวัตร หมวดปกิณณกะ เว้นแต่เป็นไข้ ไม่เป็นอาบัติ ฯ ๑๓. ภิกษุนุ่งห่มจีวรไม่เรียบร้อย ต้องอาบัติอย่างไร ตามสิกขาบทไหน ? ต้องอาบัติทุกกฎ ตามเสขิยวัตร หมวดที่ ๑ เรียกว่าสารูป ข้อ ๑.๒ ๑๔. เรื่องมารยาทผู้ดี พระพุทธเจ้าทรงเน้นมาก ขอให้นำสิกขาบทที่เกี่ยวกับ ๑. การยืน ๒. การเดิน ๓. การนั่ง ๔. การนอน ๕. การนิ่ง มาดูอย่างละข้อ ? ๑. สิกขาบทเกี่ยวกับการยืน เช่น สิกขาบทที่ ๑ แห่งหมวดปกิณณกะ ในเสขิยวัตร ความว่า “เราไม่เป็นไข้ จะไม่ยืนถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ถ้ายืนถ่าย เป็นอาบัติทุกกฎ ๒. สิกขาบทเกี่ยวกับการเดิน เช่น สิกขาบทที่ ๗ แห่งสัปปาณวรรค ปาจิตตีย์ ความว่า “ภิกษุชวนผู้หญิงเดินร่วมทางกัน แม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ต้องปาจิตตีย์” ๓. สิกขาบทเกี่ยวกับการนั่ง เช่น สิกขาบทที่ ๔ แห่งอเจลกวรรค ปาจิตตีย์ ความว่า “ภิกษุนั่งในห้องกับหญิง ไม่มีผู้ชายอยู่เป็นเพื่อน ต้องปาจิตตีย์” ๔. สิกขาบทเกี่ยวกับการนอน เช่น สิกขาบทที่ ๖ แห่งมุสาวาทวรรค ปาจิตตีย์ ความว่า “ภิกษุนอนในที่มุงบังอันเดียวกันกับผู้หญิง แม้ในคืนแรก ต้องปาจิตตีย์” ๕. สิกขาบทเกี่ยวกับการนิ่ง เช่น สิกขาบทที่ ๒ แห่งภูตคามวรรค ปาจิตตีย์ ความว่า “เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะความเป็นผู้กล่าวคำอื่น (หรือ) ในเพราะการนิ่งเสียทำให้สงฆ์ลำบาก” ๑๕. ครองผ้าอย่างไร เรียกว่าปริมณฑล ? (๗ / ๓๗) นุ่งปิดสะดือ ปกเข่าทั้ง 2เรียกว่านุ่งเป็นปริมณฑล,ห่มเข้าบ้านปิดหลุมคอ ปกข้อมือทั้ง 2 ปกเข่าทั้ง 2 เรียกว่าห่มเป็นปริมณฑล ๑๖. ภิกษุจ้องดูบาตรของตนขณะฉันบิณฑบาต ต้องอาบัติหรือไม่ ถ้าจ้องดูบาตรของผู้อื่นเล่า ต้อง อาบัติอะไรหรือไม่ ตอบให้มีหลัก ? ไม่ต้องอาบัติอะไร ถ้าจ้องดูบาตรของผู้อื่นด้วยอันคิดจะยกโทษ ต้องอาบัติทุกกฎ ตามสิกขาบทที่ ๑๒ โภชนะปฎิสังยุต เสขิยวัตรหากดูด้วยเอื้อเฟื้อ จะให้ของฉันที่ผู้อยู่ใกล้เคียง ไม่มี ไม่ต้องอาบัติ ฯ ๑๗. โภชนะปฏิสังยุตข้อ ๑๗ , ๒๒ , ๒๓ , ๒๔ ,๒๕ มีความว่าอย่างไร ? ข้อ ๑๗ พึงศึกษาว่า ปากยังมีคำข้าว เราจักไม่พูด ข้อ ๒๒ พึงศึกษาว่า เราจักไม่ฉัน ทำเมล็ดข้าวให้ตก ข้อ ๒๓ พึงศึกษาว่า เราจักไม่ฉันแลบลิ้น ข้อ ๒๔ พึงศึกษาว่า เราจักไม่ฉันดังจับๆ ข้อ ๒๕ พึงศึกษาว่า เราจักไม่ฉันดังซูดๆ ๑๘. ตามพระวินัย ภิกษุถืออิริยาบถไหนเป็นอิริยาบถเคารพ จงตอบอ้างที่มาด้วย ? ถืออิริยาบถยืนเป็นอิริยาบถที่เคารพ ดังในสิกขาบทธัมมเทสนาปฏิสังยุต เสขิยวัตรว่าภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรายืนอยู่ จักไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่) ๑๙. การนุ่งเป็นปริมณฑล คือการนุ่งอย่างไร? (๑๐ / ๔๕) เบื้อบนนุ่งปิดสะดือ เบื้องล่างปิดหัวเขาทั้ง 2 ลงเพียงครึ่งแข้ง ๒๐. เสขิยวัตรว่าด้วยการรับบิณฑบาตมีหลายข้อ จงระบุมาเพียง ๒ ข้อ ? รับบิณฑบาตโดยเคารพ,รับแกงพอสมควรแก่ข้าวสุก,หรือรับบิณฑบาตแต่พอเสมอขอบปากบาต, เมื่อรับบิณฑบาต จักแลดูแต่ในบาตร ๒๑. เสขิยวัตร คืออะไร? หมวดที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องอะไร? (๙ / ๔๖) วัตรที่พระภิกษุจำต้องศึกษา หมวดที่ ๒ ว่าด้วยธรรมเนียมรับบิณฑบาตและฉันอาหาร ๒๒. ภิกษุไม่เอื้อเฟื้อในเสขิยวัตร ปฏิบัติผิดธรรมเนียม ต้องอาบัติอะไรบ้าง? ทุกกฏ ๒๓. ทรงสอนให้ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมไว้อย่างไร ? เราจักไม่เอาน้ำล้างบาตรที่มีเมล็ดข้าวเทลงในละแวกบ้านจักไม่ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ บ้วนเขฬะลงในน้ำ ๒๔. อธิกรณ์ คืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ? อธิกรณ์คือเรื่องที่เกิดขึ้นต้องจัดทำให้เรียบร้อยมี ๔ ประเภท คือ วิวาทาธิกรณ์ อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์ และกิจจาธิกรณ์ ฯ ๒๕. การอุปสมบทเป็นอธิกรณ์หรือไม่เพราะเหตุไร ระงับด้วยวิธีไหน ? การอุปสมบทจัดเป็นอธิกรณ์ คือเป็นกิจจาธิกรณ์ เพราะเป็นกิจที่สงฆ์จะพึงทำ คือสำเร็จกิจได้ ต้องอาศัยสงฆ์จัดทำ ระงับด้วย สัมมุขาวินัย ฯ ๒๖. ปาฏิเทสนียะ หมายถึงอะไร ? มีกี่สิกขาบท ? หมายถึง อาบัติที่จะพึงแสดงคืน มี ๔ สิกขาบท ฯ ๒๗. วิวาทาธิกรณ์คืออะไร ระงับด้วยสมถะอะไร ? วิวาทาธิกรณ์ คือ การถกเถียงกันปรารภธรรมวินัยว่า อย่างนี้ถูก อย่างนี้ผิด ระงับด้วยสัมมุขาวินัยเยภุยยสิกา ฯ
|