เฉลยปัญหาวิชาวินัย นักธรรมชั้นตรี สอบในโครงการอบรม วันจันทร์ ที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ------------------------- ๑. ๑.๑ พุทธบัญญัติ มูลบัญญัติ อนุบัญญัติ คืออะไร ? (๕ คะแนน) พุทธบัญญัติ คือข้อที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้เป็นบทบังคับให้ภิกษุประพฤติ มูลบัญญัติ คือข้อที่ทรงบัญญัติไว้เดิม อนุบัญญัติ คือข้อที่ทรงบัญญัติเพิ่มเติมภายหลัง ๑.๒ อกรณียกิจคืออะไร ? มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ? (๕ คะแนน) อกรณียกิจ คือกิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ มี ๔ อย่างคือ เสพเมถุน ๑ ลักของเขา ๑ ฆ่าสัตว์ ๑ พูดอวดคุณพิเศษที่ไม่มีในตน ๑ ๒. ๒.๑ สิกขากับสิกขาบทต่างกันอย่างไร ? (๕ คะแนน) สิกขา คือข้อที่ภิกษุต้องศึกษา สิกขาบท คือพระบัญญัติมาตราหนึ่งๆ เป็นสิกขาบทอันหนึ่งๆ ฯ ๒.๒ สิกขาบทที่มาในพระปาฏิโมกข์มีเท่าไร ? อะไรบ้าง ? (๕ คะแนน) มี ๒๒๗ ฯ คือปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ ๔ เสขิยะ ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗ รวมเป็น ๒๒๗ ฯ ๓. ๓.๑ คำว่า ต้องอาบัติ หมายความว่าอย่างไร ? (๕ คะแนน) หมายความว่า ต้องโทษคือมีความผิดฐานละเมิดข้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ๓.๒ อาบัติมีโทษกี่สถาน ? อะไรบ้าง ? (๕ คะแนน) มี ๓ สถานคือ อย่างหนัก อย่างกลาง อย่างเบา ๔. ๔.๑ พูดอย่างไรเรียกว่า อวดอุตตริมนุสสธรรม ? (๕ คะแนน) พูดอวดคุณพิเศษอันยิ่งของมนุษย์ เช่น ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค ผล นิพพาน เรียกว่า อวดอุตตริมนุสสธรรม ๔.๒ คำว่า มาตุคาม (หญิง) ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒, ๓, ๔, ต่างกันอย่างไร ? (๕ คะแนน) มาตุคาม ในสิกขาบทที่ ๒ หมายถึง หญิงมนุษย์โดยที่สุดเกิดในวันนั้น มาตุคาม ในสิกขาบทที่ ๓, ๔ หมายถึง หญิงผู้รู้เดียงสา ๕. ๕.๑ ภิกษุฆ่าสัตว์ให้ตายเป็นอาบัติอะไร ? (๕ คะแนน) ถ้าเป็นสัตว์มนุษย์ เป็นอาบัติปาราชิก สัตว์ที่เรียกว่าอมนุษย์ เช่นยักษ์ เปรต และดิรัจฉานมีฤทธิ์จำแลงกายเป็นมนุษย์ได้ เป็นอาบัติถุลลัจจัย ดิรัจฉานทั่วไป เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ๕.๒ ปาจิตตีย์แบ่งเป็น นิสสัคคิยปาจิตตีย์ และสุทธิกปาจิตตีย์ เพราะเหตุไร ? (๕ คะแนน) เพราะว่านิสสัคคิยปาจิตตีย์นั้น จำต้องเสียสละวัตถุอันเป็นเหตุให้ต้องอาบัตินั้นเสียก่อน จึงแสดงอาบัติได้ ส่วนสุทธิกปาจิตตีย์นั้น ภิกษุพึงแสดงอาบัติได้เลย ไม่มีวัตถุใด ๆ ที่จำต้องสละ ๖. ๖.๑ อาบัติไม่มีมูล กำหนดโดยอาการอย่างไร ? โจทด้วยอาบัติไม่มีมูลเป็นอาบัติอะไร ? (๕ คะแนน) กำหนดโดยอาการ ๓ คือ ไม่ได้เห็นเอง ๑ ไม่ได้ยิน ๑ ไม่ได้รังเกียจ ๑ ว่าภิกษุนั้นต้องอาบัติชื่อนั้น ฯ โจทด้วยอาบัติปาราชิกต้องสังฆาทิเสส โจทด้วยอาบัติสังฆาทิเสสต้องปาจิตตีย์ โจทด้วยอาบัติอื่นจากนี้ต้องปาจิตตีย์ในมุสาวาทสิกขาบท ฯ ๖.๒ คำว่า “ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ” หมายความว่าอย่างไร ? ภิกษุต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แล้ว ทำอย่างไรจึงจะพ้น ? (๕ คะแนน) หมายความว่า อาบัติปาจิตตีย์ ที่จำต้องสละสิ่งของ ฯ ภิกษุต้องสละสิ่งของอันเป็นเหตุให้ต้องอาบัตินั้นก่อน แล้วแสดงอาบัติ จึงพ้นจากอาบัตินั้นได้ ฯ ๗. ๗.๑ สิกขา ๓ เมื่อศึกษาแล้วจะได้ประโยชน์อย่างไร ? (๕ คะแนน) ย่อมได้ประโยชน์ดังนี้ ศึกษาเรื่องศีล ทำให้เป็นผู้มีกาย วาจาเรียบร้อย ศึกษาเรื่องสมาธิทำให้ใจสงบมั่นคง ไม่ฟุ้งซ่าน ศึกษาเรื่องปัญญา ทำให้รอบรู้ในกองสังขาร ฯ ๗.๒ การนุ่งเป็นปริมณฑล คือการนุ่งอย่างไร ? (๕ คะแนน) คือนุ่งเบื้องบนปิดสะดือ แต่ไม่ถึงกระโจมอก เบื้องล่างปิดหัวเข่าทั้ง ๒ ลงมาเพียงครึ่งแข้งไม่ถึงกรอมข้อเท้า ฯ ๘. ๘.๑ อติเรกจีวร ได้แก่จีวรเช่นไร ? (๕ คะแนน) ได้แก่ จีวรนอกจากจีวรอธิษฐาน ฯ ๘.๒ การที่ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุเก็บอติเรกจีวร ด้วยมีพระพุทธประสงค์อย่างไร ? (๕ คะแนน) ด้วยมีพระพุทธประสงค์เพื่อป้องกันความสุรุ่ยสุร่าย และความมักมากของภิกษุ ฯ ๙. ๙.๑ เสขิยวัตรคืออะไร ? มีกี่สิกขาบท ? คือวัตรหรือธรรมเนียมที่ควรศึกษา , มี ๗๕ สิกขาบท ๙.๒ ภิกษุไม่เอื้อเฟื้อในเสขิยวัตร ปฏิบัติผิดธรรมเนียม ต้องอาบัติอะไร ? (๕ คะแนน) ต้องอาบัติทุกกฎ ๑๐. ๑๐.๑ อธิกรณ์ คืออะไร ? อธิกรณ์ย่อมระงับได้ด้วยอะไร ? (๕ คะแนน) คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ ระงับได้ด้วยอธิกรณสมถะ คือธรรมสำหรับระงับอธิกรณ์ ฯ ๑๑๐.๒ การแสดงอาบัติจัดเข้าในอธิกรณสมถะข้อไหน ? สำหรับระงับอธิกรณ์อะไร ? (๕ คะแนน) จัดเข้าในปฏิญญาตกรณะ ฯ สำหรับระงับอาปัตตาธิกรณ์ ฯ
|