ต้นสัตบรรณ ชื่อสามัญ Dita, Shaitan wood, Devil Tree
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ (Alstonia scholaris (L)
R.Br.)
ชื่อวงศ์ Apocynaceae
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์
เปลือกหนาแต่เปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็ก ๆ สีขาวปนน้ำตาลกรีดดูจะมียางสีขาว
ลำต้นตรง
แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็นชั้น ๆ เปลือกชั้นในสีน้ำตาล มีน้ำยางสีขาว
ใบ
เป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งมีใบประมาณ ๕-๗ ใบ
ก้านใบสั้น
แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปหอกแกมรูปขอบขนาน หรือรูป
มนแกมรูปบรรทัด
ปลายใบเป็นติ่งเล็กน้อย ใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างมีสีขาวนวล
ถ้า
เด็ดก้านใบจะมียางสีขาว ลักษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลม ขนาดใบยาวประมาณ
๑๐ - ๑๒ เซนติเมตร ออกดอกสีเขียวอ่อนเป็นช่อตามปลายกิ่ง ปากท่อของกลีบดอกมีขน
ยาวปุกปุย
ดอกมีกลิ่นฉุนรุนแรง สูดดมเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกกลิ่นหอม หากสูดดมมากจะรู้สึก
วิงเวียนศีรษะ
ช่วงค่ำจะส่งกลิ่นแรงกว่าเวลาอื่นๆ
ดอกเป็นกลุ่มคล้ายดอกเข็มช่อหนึ่งจะมี
กลุ่มดอกประมาณ ๗ กลุ่ม ดอกมีสีขาวอมเหลือง
ปกติจะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึง
เดือนธันวาคมผลเป็นฝักยาว ฝักคู่หรือเดี่ยว
ลักษณะเป็นเส้นๆ กลมเรียวยาวประมาณ ๒๐ -
๓๐ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตก
มีขุยสีขาวคล้ายฝ้ายปลิวไปตามลมได้ในฝักมีเมล็ดเล็กๆ ติด
อยู่กับขุยนั้น
คุณสมบัติ
เปลือกต้นพญาสัตบรรณ รักษาโรคบิด ลำไส้ติดเชื้อ และมาลาเรีย
ใบใช้ในการ
รักษาโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง
ในประเทศอินเดียมีการนำส่วนต่างๆ
ของต้น พญาสัตบรรณมาใช้เป็นพืชสมุนไพร
เช่นใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคมาลาเรียในชื่อ Ayush-64
ยางสีขาว และใบ รักษาแผล แผลเปื่อย และอาการปวดข้อ นอกจากนี้
ต้นพญา
สัตบรรณยังเป็นแหล่งของสารอัลคาลอยด์ที่สำคัญพญาสัตบรรณเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลี
โลพาที
สารสกัดจากใบสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้
สารสกัดจากเปลือกลำต้น สามารถยับยั้งการเจริญของข้าว ข้าวโพด คะน้า
ถั่ว
เขียวผิวดำ ถั่วเขียวผิวมันได้ |