QR พฤกษาพรรณ ตอนที่ ๓
                                                           ต้นลีลาวดี

ชื่อสามัญ   Frangipani , Pagoda tree, Temple tree

ชื่อทางวิทยาศาสตร์   Plumeria spp.

ชื่อวงศ์  Apocynaceae

ถิ่นกำเนิด อเมริกาเขตร้อน

ทางพฤกษศาสตร์

        สกุล Plumeria มีมากกว่า ๒๑ ชนิด, เท่าที่ตรวจพบสายพันธุ์มีมากกว่าร้อยสายพันธุ์

Plumeria
หลายสายพันธุ์จะมี ยาง คล้ายกับสายพันธุ์อื่นๆ ในวงศ์ตีนเป็ด Apocynaceae ซึ่ง

ประกอบไปด้วยสารพิษและทำให้ระคายเคืองต่อตาและผิวหนังในหลายสายพันธุ์มีลักษณะ

ของใบและการเรียงตัวของเนื้อเยื่อใบที่แตกต่างกัน
leaf shape and arrangement.

         ใบของสายพันธุ์
Plumeria alba จะเรียวและแหลม, ในขณะที่สายพันธุ์ Plumeria

pudica
มีรูปร่างยาวและมันวาว, สีเขียวเข้ม. และในสายพันธุ์ Plumeria pudica ใบอ่อน

จนถึงใบแก่มีสีเท่ากันตลอดจนร่วง ส่วนในสายพันธุ์ที่ดอกและใบไม้ร่วงแม้ในฤดูหนาวคือ

สายพันธุ์
Plumeria obtusa; หรือรู้จักกันอย่างเป็นทางการคือลีลาวดีสิงคโปร์

"
Singapore," ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศโคลัมเบีย Colombia.

                                                         ลักษณะทั่วไป

        ต้น เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ ๐.๙-๑.๒ เมตร จนถึงต้นที่

สูงมาก อาจสูงถึง
๑๒ เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางสีขาวข้น เป็น

ไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิดอกและผลิใบ
รุ่นใหม่ กิ่งที่ยังไม่แก่มีสีเขียว อ่อนนุ่ม

ดูเกือบจะอวบน้ำ กิ่งแก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ กิ่งไม่สามารถทานน้ำหนักได้ กิ่งเปราะ

เปลือกลำต้นหนา ต้นที่โตเต็มที่แล้วจะพัฒนาจนกระทั่งมีความแข็งแรงมากขึ้น

        ใบ เป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง มีลักษณะแตกต่าง

กันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่น โดยทั่วไป ใบจะหนา เหนียวแข็ง และมีสี

ตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตก

ต่างกัน

        ช่อดอก ดอกจะผลิออกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม แต่ก็

มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบ หรือใต้ใบ บางชนิดห้อยลงบางชนิดตั้งขึ้น ในหนึ่งช่อจะ

มีดอกบานพร้อมกัน
๑๐ – ๓๐ ดอก บางต้นที่มีความสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า ๑๐๐

ดอก ต่อ
ช่อ ออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บางพันธุ์สามารถ

ออกดอกได้ตลอดทั้งปี

        ดอก โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ถึงกลาง ยกเว้นบางพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก กลีบดอกมี

กลีบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่ลึกเข้าไปข้างใน ดอกมีลักษณะคล้ายท่อ ทำให้มองไม่เห็น

เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย โดยจะมีเกสรตัวผู้
อัน อยู่ที่โคนก้านดอก ส่วนเกสรตัวเมียอยู่

ลึกลงไปในก้านดอก เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียบานไม่พร้อมกัน ยากต่อการผสมตัวเอง ฝัก/

ผลมีลักษณะคล้ายกับฝักต้นชวนชม ฝักอ่อนสีจะมีสีเขียวเมื่อแก่ฝักจะมีสีแดงถึงดำ


ประโยชน์จากส่วนต่างๆ
 

           ไม้ประดับ
,สมุนไพร