นิทรรศกาลภาษาไทย ๒

ต้อยติ่ง

         ต้อยติ่ง : เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก เป็นพืชในวงศ์เหงือกปลาหมอ เติบโตได้ดีทั้ง

กลางแจ้งและในร่ม ต้นเจริญเต็มที่ ๖ นิ้วครึ่ง ใบกลมรี ตาแตกยอดได้สี่ข้าง ออกดอกสีม่วง

สีน้ำเงิน เฉพาะตอนฤดูฝน

        เมื่อผสมเกสรแล้วจะให้เมล็ด ประมาณ ๒๕ - ๓๐ เมล็ดอยู่ในฝักเมื่อฝักแก่ จะกลาย

เป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ พอฝักโดนน้ำก็จะแตกออกทำให้เมล็ดกระเด็นไปตกที่อื่น ซึ่งเป็น

เทคนิคชองการขยายพันธุ์ ชื่ออื่นที่เรียกเช่น อังกาบฝรั่ง
, เป๊าะแป๊ะ, minnieroot ,

poppimg pod , cracker plant เป็นต้น

 
                                               ประโยชน์และสรรพคุณ

      - รากของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยารักษาโรคไต โรคไอกรน หรือแม้แต่เป็นยาขับเลือด

ถ้าใช้ในปริมาณที่เจือจางก็สามารถกำจัดสารพิษในเลือด บรรเทาอาการสารพิษตกค้างใน

ปัสสาวะ                      

      - ใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ใบใช้พอกแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้

      - เมล็ดใช้พอกฝีเพื่อดูดหนองและลดอาการอักเสบ เมล็ดใช้พอกแผลเรื้อรัง ช่วยสมาน

บาดแผล

      - รากเป็นยาแก้พิษ ดับพิษ และทำเป็นยาเบื่อ

      - ฝักใช้เป็นของเล่นเด็ก เมื่อฝักโดนน้ำจะแตกออกมีเสียงที่ทำให้ตกใจเล็กน้อย

 

ต้อยติ่ง

                           กาพย์ยานี ๑๑

                                     ต้อยติ่งสีม่วงบาน           ตามข้างลานริมสระน้ำ

                                แพร่พันธุ์ยามฝนพรำ            รากใช้ทำยาแก้ไต

                                      ใบพอกคลายเมื่อยล้า     ปวดเข่าขาหาใช้ได้

                                 เป๊าะแป๊ะชื่อเรียกไว้            คุณค่าไม่ยิ่งหย่อนเรย

                                                ประพันธ์โดย

                                                    สามเณรปารมี   เพียรเสมอ

                                                   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔

ต้อยติ่ง

                          โครง ๔สุภาพ

                                สมุนไพรคุณค่าล้ำ           หลากหลาย (จริงนา)

                          ต้อยติ่งแพร่ขยาย                  เกลื่อนล้น

                               ดอกม่วงดูสดใส               อยู่ต่ำ

                         มากค่าหลายเกลื่อนพ้น           เกิดให้คุณนาน

                                    ประพันธ์โดย

                                      สามเณรปารมี   เพียรเสมอ

                                       ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔