นิทรรศกาลภาษาไทย ๒

ต้นสัก

ต้นสัก : ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

          สัก เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อน ลำต้นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็น

ร่องเล็ก ๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำ ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมค่อนข้างทึบ เปลือกสีเทา

เรียบหรือแตกเป็นร่องตื้นตามความยาวลำต้น ขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ

บางส่วนในภาคกลางและภาคตะวันตก มีอยู่บ้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

          สัก มักจะได้รับความเข้าใจผิดเสมอว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื่องจากว่ามันมีลักษณะ

พิเศษที่เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีความทนทานกว่าไม้เนื้อแข็งหลายๆ ชนิด

          ชื่อสามัญอื่นอื่น : เซบ่ายี้
, ปีฮือ, ปายี้, เป้อยี สีขายขนมเส้น  

          ลำต้น : เป็นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็กๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำ

          ใบ : เป็นใบเดี่ยวใหญ่มาก ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ปลายใบแหลมโคนมน ยาว

๑๕-๓๐ เซนติเมตร กว้างเกือบเท่ายาว ใบของต้นอ่อนจะใหญ่กว่านี้มาก ผิวใบขนสากคาย

สีเขียวเข้ม ขยี้ใบสดจะมีสีแดงเหมือนเลือด มีการสลัดใบทิ้งเมื่อถึงฤดูหนาว

          ดอก : มีขนาดเล็ก สีขาวนวลออกเป็นช่อตาม ปลายกิ่ง ออกดอกและเป็นผลเดือน

มิถุนายน - ตุลาคม

          ผล : เป็นผลแห้งค่อนข้างกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒
 เซนติเมตร เปลือกแข็ง

ภายในมี ๑-๓
 เมล็ด

                                                          ประโยชน์และสรรพคุณ

       ใบ นำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือดเนื้อไม้และใบมีรสเผ็ดเล็ก

น้อย สรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต ใบมีรสเผ็ดเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษโลหิต ช่วย

แก้อาการอ่อนเพลีย

        เปลือกไม้ มีสรรพคุณแก้อาการปวดศีรษะ เมล็ดใช้เป็นยารักษาโรคตาใบใช้ทำเป็น

ยาอมแก้เจ็บคอช่วยแก้ไข้คุมธาตุในร่างกายเนื้อไม้ใช้รับประทานเป็นยาขับลมได้ดีมาก

        ใบ ก็มีสรรพคุณเป็นยาขับลมเช่นกันเนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาขับพยาธิเนื้อไม้ ใบ

และดอกมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ ใบใช้เป็นยาแก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ช่วยรักษา

ประจำเดือนไม่ปกติ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง

       เปลือก มีสรรพคุณเป็นยาฝาดสมาน เปลือกไม้มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการบวม ส่วน

เนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาแก้บวมช่วยแก้ลมในกระดูก


ต้นสัก

                           กาพย์ยานี ๑๑

                               ป่าสักทางภาคเหนือ        ไม้เนื้ออ่อนทนทานยิ่ง

                      ช่อขาวนวลปลายกิ่ง                  ต้นสีเทาโคนเป็นพู

                                เพาะเมล็ดหว่านลง         คุณค่าจงมาเรียนรู้

                      มเหสักข์นามคู่                         อุตรดิตถ์ของไทย

                                ประพันธ์โดย

                                 สามเณรปารมี    เพียรเสมอ

                                  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔